Ahrefs
เมื่อพูดถึงการทำ SEO แน่นอนว่า จะไม่พูดถึงเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ พัฒนา และปรับปรุงให้การทำ SEO ดีขึ้นไปไม่ได้เลย ในบทความนี้ yenped จึงจะพาไปรู้จักกับอีกหนึ่งเครื่องมือที่เป็น SEO Tools ยอดฮิตที่นักการตลาดและนักทำ SEO นิยมใช้กันนั่นก็คือ Ahrefs (อ่านว่า เอช-เรฟ หรือ เอ-เอช-เรฟ)
มาดูกันดีกว่าว่า Ahrefs มีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง แล้วใช้งานฟรีได้หรือไม่ ใช้ใน Keyword ที่เป็นภาษาไทยแล้วเวิร์กหรือเปล่า แล้วถ้าต้องจ่ายแบบเสียเงินจะราคาเท่าไหร่ ตามแมวส้มมาดูคำตอบไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่านะ
Ahrefs คืออะไร
Ahrefs คือ หนึ่งใน SEO Tool ที่ช่วยในการปรับปรุงเว็บไซต์และการทำ Technical SEO, On-Page SEO และ Off-Page SEO ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดย Ahrefs มีฟีเจอร์หลากหลายที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ให้ครบถ้วน จนถูกอกถูกใจ Search Engine อย่าง Google แน่นอน ไม่ว่าจะเป็น…
- Site Explorer: แสดงข้อมูลเบื้องต้นของเว็บไซต์ เช่น Domain Rating (DR), URL Rating (UR), Backlinks, Referring Domains และอื่นๆ
- Keyword Explorer: ช่วยให้ผู้ใช้งานหาคำค้นหาที่เหมาะสมสำหรับเว็บไซต์ของตนให้เหมาะสมกับเจตนาการค้นหาของผู้ใช้ (Search Intent)
- Site Audit: สแกนเว็บไซต์เพื่อวิเคราะห์ SEO และปัญหาที่ต้องแก้ไข เช่น การทำ Duplicate Content, การทำ Canonical tag, การทำ Broken Link, การทำ Missing Meta tag และอื่นๆ
- Rank Tracker: ช่วยติดตามการเปลี่ยนแปลงของ Ranking Keyword ของเว็บไซต์
- Content Explorer: ช่วยหา Content ที่ได้รับความนิยม และค้นหาว่า Content นั้นมี Backlinks อยู่บนเว็บไซต์ไหนบ้าง
Ahrefs ใช้ฟรีได้หรือไม่
หากต้องการใช้ Ahrefs แบบเต็มรูปแบบก็ต้องเสียเงินจ่ายรายเดือน แต่ก็มีฟังก์ชันให้ทดลองใช้ฟรีได้ 7 วันด้วยเหมือนกัน รวมถึงมีบางฟีเจอร์ที่สามารถเข้าไปใช้งานได้แบบฟรีๆ เช่น
- Backlink Checker : เครื่องมือตรวจสอบ Backlink ของเว็บไซต์แบบฟรีๆ
- Website “Authority” Checker : เครื่องมือตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์ เช่น Domain Rating, Backlinks, Linking websites
- Broken Link Checker : เครื่องมือตรวจสอบลิงก์เสียทั้งในฝั่ง Outbound Link และ Inbound Link
- Free Keyword Generator : เครื่องมือทำ Keyword Research ที่เข้าใช้งานได้ฟรี
- SERP Checker : เครื่องมือตรวจสอบอันดับของเว็บไซต์ในแต่ละ Keyword ที่ปรากฏอยู่บน SERPs (Search Engine Result Page) โดยจะแสดงให้ดู 10 อันดับ
- Keyword Rank Checker : เครื่องมือสำหรับตรวจ Keyword ที่มีอยู่ในโดเมนของคุณ
วิธีการใช้งาน Ahrefs
สำหรับการเริ่มต้นใช้งาน Ahrefs ให้เข้าไปที่ https://ahrefs.com/
หากคุณมี Account อยู่แล้วก็ให้ทำการกด Sign in แต่ถ้ายังไม่มี Acouunt ให้ทำการกด Sigh up เพื่อสมัครการใช้งาน
วิธีการใช้งาน Ahrefs แบบฟรี
ในการใช้งาน Ahrefs แบบฟรี สามารถเข้าไปใช้งานได้เลยที่ https://ahrefs.com/free-seo-tools
เมื่อกด Drop Down ลงมาจะเป็นฟีเจอร์ต่างๆ ที่สามารถใช้งานฟรีได้ เดี๋ยวเรามาดูกันว่าแต่ละตัวใช้ทำอะไรได้บ้างนะเมี้ยว~
หมวด Keyword Research
จะเป็นเครื่องมือในกลุ่มที่ใช้เพื่อการทำ Keyword Research ซึ่งช่วยให้คนทำ SEO ประเมินและวิเคราะห์ Keyword ที่เหมาะสมได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ดังนี้
Free Keyword Generator
Free Keyword Generator จะเป็นเครื่องมือสำหรับทำ Keyword Research โดยใช้หา keyword จากแพลตฟอร์มต่างๆ อย่าง Google, Bing, YouTube และ Amazon ซึ่งวิธีการใช้งานก็แค่เข้าไปที่ https://ahrefs.com/keyword-generator แล้วทำการพิมพ์ Keyword ที่ต้องการดูข้อมูลลงไป >> เลือกประเทศที่ต้องการ >> คลิก Find Keywords
เมื่อทำการกดค้นหาก็จะปรากฏผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับ Keyword ที่เราต้องการจะทราบ Insight ขึ้นมา อย่างที่แมวส้ม ลองค้นหา Keyword ที่เกี่ยวกับคำว่า “แมว” ก็จะมีผลลัพธ์ของคำคีย์เวิร์ด 100 คำแรกจาก 17,271 คำที่แสดงขึ้นมาให้เห็น โดยจะมีทั้ง Seed Keyword และ Long-Tail Keyword ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้มีการบอก KD หรือ Keyword Difficulty ที่จะบอกความยากง่ายในการแข่งขันแต่ละ Keyword รวมถึงบอก Search Volume ที่เป็นปริมาณการค้นหาในแต่ละเดือนให้ด้วย
ส่วนรูปแบบของ Keyword ที่สามารถเลือกดูได้จะมี 2 รูปแบบ คือ
- Phrase Match คือ รูปแบบการหาคีย์เวิร์ดที่มีคำที่เราต้องการอยู่ในนั้น อย่างเช่น แมวส้มหาคำว่า “แมว” คำที่ขึ้นมาก็ต้องมีคำว่า แมว ปนอยู่ในนั้น
- อีกรูปแบบคือ Questions ซึ่งจะเป็นคำถามที่คนค้นหาเกี่ยวกับคำนั้นๆ เช่น แมวสีเทาพันธุ์อะไร, อาหารแมวยี่ห้อไหนกินแล้วอ้วน เป็นต้น
Keyword Difficulty Checker
Keyword Difficulty Checker เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับดูความยาก-ง่ายของแต่ละ Keyword ว่าจะทำการแข่งขันได้หรือไม่ โดยเข้าไปใช้งานได้เลยที่ https://ahrefs.com/keyword-difficulty หลังจากนั้นให้ทำการพิมพ์ Keyword ที่ต้องการดูข้อมูลลงไป >> เลือกประเทศที่ต้องการ >> คลิก Check Keyword
เมื่อทำการกดค้นหาผลลัพธ์ที่ขึ้นมาก็จะมีการบอกว่า Keyword Difficulty ของคำนั้นๆ เป็นยังไง อย่างคำว่าแมวที่เราทำการค้นหา จะเห็นว่ามี Keyword Difficulty เท่ากับ 1 (Keyword Difficulty จะมีตั้งแต่ 1-100) เลข 1 ก็คือคีย์เวิร์ดมีความง่ายในการทำอันดับ ส่วนด้านล่างจะเป็นหน้าต่างๆ ที่ขึ้นอันดับอยู่ในปัจจุบัน โดนจะมีรายละเอียดที่บอกว่า…
- DR หรือ Domain Rating คือ คะแนนของโดเมนเว็บไซต์ ซึ่งได้มาจากการที่เว็บไซต์อื่นๆ (ดูจากการได้รับ Backlink มา)
- UR หรือ URL Rating คือ คะแนน URL ของหน้าเว็บเพจของ ahrefs (ให้คะแนนตั้งแต่ 0-100 โดยดูจาก Backlink)
- Backlink คือ จำนวนของลิงก์จากเว็บไซต์อื่นๆ ที่อ้างอิงเว็บไซต์นั้นๆ
- Domains คือ จำนวนโดเมนที่ติดใน SERPs
- Traffic คือ จำนวนผู้ชมที่เข้าไปชมเว็บไซต์นั้นๆ
- Keywords คือ จำนวน Keyword ที่หน้าๆ นั้นทำอันดับได้
ซึ่งในเวอร์ชันฟรีจะดูข้อมูลส่วนนี้ได้ประมาณ 4 อันดับ นอกจากนั้นจะต้องซื้อแพ็คเกจเพิ่ม
หมวด Link Building
จะเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับการตรวจสอบ และพัฒนาการทำ Off-Page SEO โดยจะเกี่ยวข้องกับการเช็ก Backlink และความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์เป็นหลัก ดังนี้
Backlink Checker
Backlink Checker จะเป็นเครื่องมือตรวจสอบ Backlink ของเว็บไซต์ วิธีใช้งานคือ ให้เข้าไปที่ https://ahrefs.com/backlink-checker หลังจากนั้นให้ทำการพิมพ์ URL เว็บไซต์ที่ต้องการดูข้อมูลลงไป >> เลือกประเภทโดเมน >> คลิก Check Backlinks
เมื่อทำการกดค้นหา จะเห็นผลลัพธ์ที่ขึ้นมาโดยแบ่งข้อมูลเป็น…
- DR หรือ Domain Rating (คะแนนโดเมนเว็บไซต์)
- Backlink (จำนวนของลิงก์จากเว็บไซต์อื่นๆ ที่อ้างอิงถึงเว็บไซต์)
- Linking Websites (จำนวนโดเมนที่ไม่ซ้ำที่ Backlink กลับมายังเว็บไซต์คุณ)
นอกจากนี้ จะมีข้อมูลแยกแต่ละเว็บไซต์ด้วยว่า DR ของแต่ละเว็บไซต์ที่ทำ Backlink กลับมานั้นมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ พร้อมบอกด้วยว่าทำ Backlink มาจากหน้าเพจไหน และบอกด้วยว่าทำ Backlink มายังหน้าเว็บไหนของคุณด้วย
Website Authority Checker
Website Authority Checker จะเป็นเครื่องมือสำหรับตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ วิธีใช้งานคือ ให้เข้าไปที่ https://ahrefs.com/website-authority-checker หลังจากนั้นให้ทำการพิมพ์ URL เว็บไซต์ที่ต้องการดูข้อมูลลงไป >> คลิก Check Authority
เมื่อทำการกดค้นหา ผลลัพธ์ที่ขึ้นมาจะบอกรายละเอียดของคุณภาพเว็บไซต์ 3 ส่วนด้วยกัน คือ
- DR หรือ Domain Rating
- Backlink
- Linking Websites
ซึ่งนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ได้ว่า เว็บไซต์ของคุณในสายตาของ Search Engine มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน
Broken Link Checker
Broken Link Checker จะเป็นเครื่องมือสำหรับตรวจสอบลิงก์เสียในแต่ละเว็บไซต์ วิธีใช้งานคือ ให้เข้าไปที่ https://ahrefs.com/broken-link-checker หลังจากนั้นให้ทำการพิมพ์ URL เว็บไซต์ที่ต้องการดูข้อมูลลงไป >> เลือกประเภทโดเมน >> คลิก Check Broken Links
SERP Checker
SERP Checker จะเป็นเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์คู่แข่งที่กำลังทำอันดับใน Keyword ที่คุณต้องการ สามารถเข้าไปใช้งานได้เลยที่ https://ahrefs.com/serp-checker หลังจากนั้นให้ทำการพิมพ์ Keyword ที่ต้องการดูข้อมูลลงไป >> เลือกประเทศ >> คลิก Check SERP
เมื่อทำการกดค้นหา ผลลัพธ์ที่ขึ้นมาจะบอกว่า 10 อันดับแรกของเว็บไซต์ที่ติดอันดับใน Keyword ที่ต้องการมีใครบ้าง พร้อมบอกให้ด้วยว่า คุณภาพของเว็บไซต์เหล่านั้นเป็นอย่างไร
Keyword Rank Checker
Keyword Rank Checker จะเป็นเครื่องมือสำหรับตรวจสอบอันดับในแต่ละ Keyword ว่ามีอันดับอยู่ที่เท่าไหร่บ้าง โดยเข้าไปดูได้เลยที่ https://ahrefs.com/keyword-rank-checker หลังจากนั้นให้ทำการพิมพ์ Keyword ที่ต้องการดูข้อมูลลงไป >> พิมพ์ URL ของเว็บไซต์ที่ต้องการ >> เลือกประเทศ >> คลิก Check Rankings
เมื่อทำการกดค้นหา ผลลัพธ์ที่ขึ้นมาจะบอกว่าอันดับของเว็บไซต์คุณใน Keyword นั้นๆ อยู่อันดับที่เท่าไหร่ และมีบอกเพิ่มเติมด้วยว่าคู่แข่งของคุณในแต่ละอันดับมีความน่าเชื่อในแต่ละด้านแค่ไหน ถ้าหากคุณต้องการเอาชนะอันดับที่อยู่เหนือคุณก็ต้องปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดีมากขึ้นนั่นเอง
วิธีการใช้งาน Ahrefs แบบเสียเงิน
ส่วนใครที่อยากใช้ Ahrefs แบบครบๆ ทุกฟีเจอร์ก็ลองเลือกซื้อแพ็คเกจรายเดือนดูก็ได้ เพราะจะสามารถใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างไม่จำเป็น ดังนี้
Dashboard
สำหรับใครที่มีโปรเจกต์เว็บไซต์ที่ต้องทำ SEO หลายตัว แนะนำให้ใช้ฟีเจอร์ Dashboard ของ Ahrefs ในการรวบรวมผลลัพธ์และแสดงผลให้ดูในหน้าเดียว นอกจากนี้ยังทำ Disavow Link จากหน้านี้ได้ด้วย (ดูการใช้งานหน้า Dashboard แบบครบๆ เลยได้ที่ How to use Dashboard )
Site Explorer
ใครที่อยากรู้ว่าเว็บไซต์ของคู่แข่งกำลังทำอะไรอยู่ สามารถใช้ฟีเจอร์ Site Explorer ในการส่องคู่แข่งได้เลย โดยมีบอกให้ครบ ยกตัวอย่างเช่น
- ภาพรวมของเว็บไซต์ เช่น UR, DR, จำนวน Keyword ฯลฯ และยังมีกราฟแสดงให้ดูแนวโน้มอีกด้วย
- จำนวน Backlink ที่เว็บไซต์ได้รับ
- จำนวน Organic Keyowrd
- หน้าเพจที่ติดอันดับดี
- Keyword ที่กำลังทำการยิงแอดอยู่ หรือมีคนทำ Backlink มาเยอะที่สุด ฯลฯ
ดูวิธีการใช้งาน Site Explorer แบบละเอียดได้เลยที่ https://ahrefs.com/academy/how-to-use-ahrefs
Keywords Explorer
Ahrefs ยังสามารถใช้ในการทำ Keywords Explorer ได้ด้วย โดยการพิมพ์ Keyword ที่ต้องการลงไป เลือกประเทศที่ต้องการ และกด Search ได้เลย
ในผลลัพธ์การค้นหาจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ Keyword แสดงให้ดู ทั้ง KD, Search Volume, Traffic Potential (ปริมาณของ Traffic ที่จะได้), Global Vloume (ปริมาณการค้นหาแยกในแต่ละประเทศ) นอกจากนี้ยังมีไอเดีย Keyword อื่นปรากฏขึ้นมาให้ดูทั้งแบบ Terms Match, Questions, Also rank for และ Also talk about ด้วย
ส่วนด้านล่างจะมีผลลัพธ์บน SERP ของ Keyword ที่ทำการค้นหามาให้ โดยบอกว่ามีเว็บไหนที่ติดอันดับอยู่บ้าง และมีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องเอาชนะเว็บเหล่านั้น
Site Audit
หากคุณไม่แน่ใจว่าเว็บไซต์ควรที่จะปรับปรุงหรือพัฒนาส่วนไหนให้ดีขึ้นบ้าง สามารถใช้งาน Site Audit ที่เป็นเครื่องมือสำหรับตรวจสอบเว็บไซต์ โดยจะบอกข้อมูลปัญหาต่างๆ ครบเหมือนกับการใช้งาน Google Search Console เลยทีเดียว เช่น ปัญหาเรื่อง Tilte Description หรือ H1 tag, หน้าดาวน์โหลดช้า, ลิงก์เสีย, รูปไม่แสดงผล ฯลฯ
Rank Tracker
หากต้องการติดตามผลลัพธ์อันดับ แนะนำให้ใช้ Rank Tracker ในการติด Track เพื่อดูว่าอันดับของ Keyword ที่ทำนั้นอยู่ที่เท่าไหร่ มีหน้าไหนที่ติดแล้วบ้าง โดยมีบอกทั้งอันดับปัจจุบัน และการเปลี่ยนขึ้นลง เพื่อดูว่า Performance ในแต่ละช่วงเป็นอย่างไร และบอกด้วยว่า Traffic ที่เข้ามามีเท่าไหร่ด้วย
Content Explorer
สายคอนเทนต์ห้ามพลาด! กับฟีเจอร์ Content Explorer ที่จะช่วยแตกไอเดียของ Keyword ที่คุณต้องการให้ออกมาเป็นไอเดียการทำคอนเทนต์ โดยสามารถดูได้ว่า Keyword แต่ละคำนั้น มีใครทำ Topic อะไรไปแล้วบ้าง ตัวอย่างของไอเดีย Keyword ที่สามารถหยิบไปทำคอนเทนต์ของเว็บไซต์คุณเองได้
Ahrefs ราคาเท่าไหร่
Ahrefs มีแพ็คเกจราคาให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น…
- แพ็คเกจ Lite เริ่มต้นที่ $99 หรือประมาณ 3,500 กว่าบาท/เดือน
- แพ็คเกจ Standard เริ่มต้นที่ $199 หรือประมาณ 6,877 กว่าบาท/เดือน
- แพ็คเกจ Advanced เริ่มต้นที่ $399 หรือประมาณ 13,789 กว่าบาท/เดือน
- แพ็คเกจ Enterprise เริ่มต้นที่ $999 หรือประมาณ 35,000 กว่าบาท/เดือน
ซึ่งแต่ละแพ็คเกจจะครอบคลุมฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน ทำให้มีเรตราคาที่แตกต่างกันไปด้วย ลองดูฟีเจอร์ที่ใช้ได้ เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าได้ตามตารางด้านล่างนี้เลยนะ
ใช้ Ahrefs ดีหรือไม่ และมีเครื่องมือใดน่าสนใจอีกบ้าง
Ahrefs เป็นเครื่องมือช่วยทำ SEO ที่ใช้งานได้หลากหลาย และถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการพัฒนา SEO ของเว็บไซต์ โดย Ahrefs มีฟีเจอร์หลากหลายที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในการใช้งาน Ahrefs จะต้องเสียค่าใช้จ่ายตามฟีเจอร์ที่ต้องการใช้งาน โดยราคาเริ่มต้นของ Ahrefs เท่ากับ $99 ต่อเดือน หรือจะทดลงใช้งานฟรีก่อนก็ได้เช่นกัน
และสำหรับใครที่ต้องการเปรียบเทียบและทดลองใช้ SEO Tools ตัวอื่นๆ เพื่อหาเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและเหมาะกับตัวเองมากที่สุด ลองดูรีวิววิธีการใช้งานและรายละเอียดของเครื่องมือช่วยทำ SEO ตัวอื่นๆ ที่แมวส้มได้เคยเขียนรีวิวได้เลยที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย